สเตนเลส หรือ เหล็กกล้า
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ”สเตนเลส” ก่อน ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง แค่พอเป็นความรู้ในการเลือกใช้สเตนเลสให้เหมาะกับวัตถุประสงค์หรือการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสเตนเลส (ไม่ถึงกับต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์นะครับ) สเตนเลส (Stainless steel) หรือ เหล็กกล้าไร้สนิม คือ เหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนน้อยกว่าหรือต่ำกว่า 2% ของน้ำหนัก และมีส่วนผสมของโครเมียมอย่างน้อยที่สุด 10.5% ขึ้นไป จะทำให้กลายเป็น เหล็กกล้า ที่มีความสามารถต้านทานการเกิดสนิมได้ สาเหตุมาจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง ออกซิเจนในอากาศกับโครเมียมในเนื้อสเตนเลส เกิดเป็นฟิล์มบางๆเคลือบผิวไว้ ทำหน้าที่ปกป้องการเกิดความเสียหายให้กับตัวเนื้อสเตนเลสได้เป็นอย่างดี ปกป้องการกัดกร่อน และไม่ชำรุดหรือสึกกร่อนง่ายอย่างโลหะทั่วไป
ประเภทของสแตนเลส
คนโดยทั่วไปจะไม่ทราบว่าสเตนเลสมีกี่ประเภท และมักจะมีการเข้าใจผิดว่าสเตนเลสแท้ต้องแม่เหล็กดูดไม่ติด แต่จริงๆแล้วการที่แม่เหล็กจะดูดติดหรือไม่ติดนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของสเตนเลส สเตนเลสแบ่งออกเป็นกลุ่มพื้นฐาน ได้ 5 กลุ่ม คือ ออสเทนิติค, เฟอริติค, ดูเพล็กซ์, มาร์เทนซิติค และ กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก
กลุ่มออสเทนิติค หรือ สเตนเลสตระกูล 300
มีคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดไม่ติด มีส่วนผสมของโครเมียม 16% คาร์บอนอย่างมากที่สุด 0.15% และมีส่วนผสมของธาตุนิกเกิล 8% ทำให้สามารถต้านทานการกัดกร่อนได้ดี เกรดที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและนิยมเรียก 18/10 คือ การที่มีส่วนผสมของโครเมียม 18% และนิกเกิล 10% ดังนั้นทาง bottlememarket.com จึงนำสแตนเลสกลุ่มออสเทนิติคมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต กระบอกน้ำสเตนเลส กระบอกน้ำสูญญากาศ แก้วฝาปิด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นสเตนเลสทั้งหมด
กลุ่มเฟอริติค แม่เหล็กดูดติด มีธาตุคาร์บอนผสมปริมาณที่ต่ำ และมีโครเมียมเป็นธาตุผสมหลักที่สำคัญอาจอยู่ระหว่าง 10.5%-27% และมีนิกเกิลเป็นส่วนผสมอยู่น้อยมากหรือไม่มีเลย
กลุ่มมาร์เทนซิติค แม่เหล็กดูดติด มีส่วนผสมของโครเมียม 12-14% และมีธาตุคาร์บอนผสมอยู่ปานกลาง มีโมลิบดีนัมเป็นส่วนผสมอยู่ประมาณ 0.2-1% ไม่มีนิกเกิล สเตนเลสตระกูลนี้สามารถปรับความแข็งได้โดยการให้ความร้อนแล้วทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว และอบคืนตัว สามารถลดความแข็งได้ คล้ายกับเหล็กกล้าคาร์บอน
กลุ่มดูเพล็กซ์ มีโครงสร้างผสมระหว่าง โครงสร้างเฟอริติค และออสเทนิติคซึ่งนำข้อดีของทั้งสองกลุ่มมารวมกัน มีโครเมียมเป็นธาตุผสมอยู่ระหว่าง 19-28% และโมลิบดินัมสูงกว่า 5% และมีนิกเกิลผสมอยู่ 4.5 – 8% น้อยกว่าตระกูลออสเทนิติค เพื่อวัตถุประสงค์ของการใช้งานเฉพาะเจาะจงบางประเภท ซึ่งไม่ค่อยมีการผลิตมากนัก
กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก เกรดที่เป็นที่รู้จักในตระกูลนี้ คือ 17-4H ซึ่งมีส่วนผสมของโครเมียม 17% และนิกเกิล 4% สามารถเพิ่มความแข็งแรงได้โดยกลไกเพิ่มความแข็งจากการตกผลึก โดยสามารถเพิ่มความแข็งแรงได้สูงมาก เช่น ยานอวกาศ
5สิ่งต้องรู้ ก่อนทำสีสแตนเลส
งานพ่นสีสแตนเลสด้วยระบบพ่นแบบปิด หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การพ่นสีสแตนเลส ลงบนชิ้นงานที่ผ่านกรรมวิธีการเชื่อม ประกอบ การดัด การเลเซอร์ การขัด ขึ้นรูป นั้นก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพ่นสีลงบนชิ้นงานสแตนเลส ควรเก็บรายละเอียดของชิ้นงานให้เรียบร้อยก่อนส่งมาพ่นสี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาหลังพ่นสีแล้ว 5สิ่งที่ควรรู้ก่อนพ่นสีสแตนเลส
1.สีสแตนเลสเมื่อพ่นแล้วไม่สามารถ เก็บงานเชื่อม ตัด ดัด หลังพ่นสีได้ เพราะจะทำให้สีมีรอยไหม้ หรือเกิดปฎิกริยากับสีให้แตกร่อนได้ ดังนั้นควรเชื่อมชิ้นงานให้เสร็จก่อนทำการส่งพ่นสีสแตนเลส
2.สีพ่นสแตนเลสที่มีคุณภาพดี เมื่อพ่นสีจนแห้งแล้วจะไม่ลอกล่อนเป็นแผ่น สีสันสดใส มีความมันวาวในเนื้อสีละเอียด อายุการใช้งานยาวนาน
3.ก่อนนำชิ้นงานมาพ่นสีสแตนเลสควรตรวจเช็คความเรียบร้อยของชิ้นงาน เช่นรอยไหม้จากการเชื่อม แนวเชื่อม ตามด การล้างเจียรล้างผิว รอยขัดต่างๆ รอยขีดข่วน สีสำหรับพ่นงานสแตนเลสเป็นสีชนิดมีความโปร่งแสง และไม่สามารถปกปิดล่องรอยจากการเก็บงานสแตนเลสขึ้นรูปได้
4.ความเงาของสีพ่นสแตนเเลสขึ้นอยู่กับผิวของสแตนเลส โดยปกติชิ้นงานที่นิยมนำมาพ่นสี จะใช้สแตนเลสเกรด Mirror และ HL หากต้องการพ่นสีสแตนเลสชิ้นงานสีทองเงา ควรใช้สแตนเลสที่เป็นMirror ก็จะให้ความเงางาม
5.วัสดุต่างกันโทนสีที่พ่นได้ต่างกันแม้จะใช้สีในปริมาณเท่ากัน รอบพ่นเท่ากัน ปัจจัยสำคัญของการคุมโทนสีขึ้นอยู่กับชิ้นงานที่พ่น เช่น การพ่นสีลงบนสแตนเลส ผิวมิลเลอร์ กับผิวแฮร์ไลน์ ผลลัพธ์ที่ได้โทนสีจะไม่เหมือนกัน
วิธีการผลิตท่อสแตนเลสและท่อ?
การผลิตท่อสแตนเลสจะเริ่มขึ้นในโรงถลุงเหล็กซึ่งมีแผ่นคอนกรีตหรือเหล็กแท่ง เส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่และท่อผนังหนาที่ทำจากแผ่นรีดร้อนในขณะที่ท่อรอยส่วนใหญ่ผลิตจากรีดเย็นหรือรีดร้อนรีดก่อนวัสดุขึ้นอยู่กับว่าท่อสแตนเลสร้อนหรือเย็นที่เกิดขึ้นผลจะ จงแตกต่าง. ท่อที่ทำจากสเตนเลสสตีลที่ทำจากเย็นจะมีผิวเรียบและมีลักษณะทางกลที่แข็งแกร่งรวมถึงความคลาดเคลื่อนที่ใกล้กว่าท่อที่ใช้เป็นเกลียวที่ขึ้นรูปร้อน
ขึ้นอยู่กับมิติด้านนอกความหนาของผนังและการใช้งานขั้นสุดท้ายมีวิธีการต่างๆในการผลิตท่อและท่อสแตนเลสแบบรอยเชื่อมในรอยต่อและรอยสำหรับท่อหนาขึ้นเป็นวิธีการผลิตหลักสำหรับท่อและท่อสแตนเลส
1 มักใช้ ท่อสเตนเลสแบบสแตนเลส ตามเส้นทางการผลิตที่แสดงด้านล่าง วัสดุจะถูก decoiled โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเครื่องสะสมแถบซึ่งจะช่วยให้การผลิตหลอดอย่างต่อเนื่อง
2, ท่อสเตนเลส หนาหนาประมาณ 6 มิลลิเมตรและท่อที่มี OD ขนาดใหญ่โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่กว่า 500 - 600 มม. ทำจากแผ่นชิ้นเดียวหรือแผ่น (ดังแสดงด้านล่าง) ขึ้นอยู่กับความหนาการขึ้นรูปจะกระทำในเครื่องรีดลูกกลิ้งหรือในการกดไฮดรอลิค การเชื่อมจะทำกันทั่วไปในข้อต่อ I, Y หรือ X โดยใช้ PAW และ (tandem) submerged arc welding (SAW) หรือการรวมกันของสิ่งเหล่านี้ในเครื่องเชื่อมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ การเชื่อมทิกมักใช้สำหรับการแต่งกาย (การผึ่งให้แห้ง) ของราก
การเชื่อมทั้งหมดทำได้โดยปกติกับโลหะบรรจุยกเว้นเมื่อเชื่อมภายใต้รหัสที่ไม่อนุญาตให้มีการเติมโลหะ หลังจากเชื่อมแล้วตะเข็บเชื่อมอาจเป็นพื้นและท่อสามารถอบและน้ำได้ตามที่ระบุไว้ในมาตรฐานหรือข้อกำหนดของลูกค้า ท่อจะได้รับการสอบเทียบเพื่อให้เป็นไปตามความคลาดเคลื่อนของขนาดที่ระบุตามด้วยการขัดสีด้วยทรายและการดองด้วยกรด ท่อจะถูกทดสอบด้วยวิธี hydrostatic (HT), radiography (RT) หรือ NDT อื่น ๆ เช่นการทดสอบ dyepenetrant (PT) แต่ยัง DT ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่แท้จริง
หมายเหตุ: มาตรฐานของเอสเอสเอส welded มาตรฐาน ASTM:
ASTM A249 ข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับหม้อไอน้ำ Austenitic แบบเชื่อม, ฮีทฮีทฮีท, ตัวแลกเปลี่ยนความร้อนและคอนเดนเสทเซอร์
ASTM A269 ข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับท่อเหล็กกล้าไร้สนิมออสเตไนท์และสเตนเลสสำหรับบริการทั่วไป
ASTM A270, ข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับเหล็กกล้าไร้สนิมสเตนเลสและสเตนเลสสตีล Austenitic และเหล็กกล้าไร้สนิมและเชื่อม
มาตรฐาน ASTM A 312 ข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับท่อสแตนเลสสตีล Austenitic ที่ไม่มีรอยต่อ